Tutorial

3 สิ่งที่ต้องตรวจสอบก่อนซื้อ RTX 30

December 3 2020

“หมดแล้วเหรอ” อาจจะเป็นคำถามที่คนส่วนใหญ่จะถามตอนกำลังจะไปซื้อ RTX 30 อย่างไรก็ตามไม่ว่าคุณจะได้ของตอนนี้หรือวางแผนที่จะซื้อในอนาคตอันใกล้นี้ มีหลายสิ่งที่คุณต้องตรวจสอบก่อนซื้อ

เคสของคุณใหญ่พอมั้ย?

เพื่อรับมือกับความร้อนการ์ดแสดงผลรุ่นใหม่มักจะมีโมดูลระบายความร้อนที่ใหญ่และยาวกว่ามากและคุณจะต้องตรวจสอบว่าเคสปัจจุบันหรือเคสที่กำลังจะมาถึงนั้นใหญ่พอสำหรับซีรีส์ “THICC” RTX 30

แม้ว่าการ์ด RTX 30 ใหม่ของคุณจะใส่เข้าไปในเคสของคุณได้ แต่คุณต้องระวังด้วยว่ามีที่ว่างเพียงพอเหนือพัดลมสำหรับการสูดอากาศที่เพียงพอหรือไม่ รวมถึงมีการไหลเวียนของอากาศเพียงพอภายในเคสหรือไม่

ด้วยเหตุนี้จึงแนะนำให้เลือกเคสแบบมิดทาวเวอร์เป็นอย่างน้อยเพื่อให้แน่ใจว่าการ์ดแสดงผลของคุณจะสามารถระบายความร้อนได้ดี หากมีความเป็นไปได้ที่จะอัปเกรดเป็นระบบระบายความร้อนด้วยน้ำแบบเปิดสำหรับระบบของคุณหรือว่าถ้าเลือกเคสแบบฟูลทาวเวอร์จะเป็นทางออกที่ปลอดภัยกว่า

พาวเวอร์ซัพพลายของคุณมีประสิทธิภาพเพียงพอหรือไม่?

สาเหตุที่คุณเลือกใช้การ์ดแสดงผล RTX 30 series อาจเป็นเพราะประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมซึ่งช่วยให้คุณเล่นเกมที่มีความละเอียด 4K และการตั้งค่ากราฟิกพิเศษ อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรได้มาฟรี: ประสิทธิภาพอันมหาศาลนั้นก็ต้องการพลังงานมหาศาลเช่นกัน

TGP (Total Graphic Power) ของ RTX 3090 & 3080 นั้นต้องใช้เกิน 300W และ 400W หมด หากคุณต้องการทำ OC คุณยิ่งต้องการพลังงานมากกว่านี้อีก หาก PSU (Power Supply Unit) ของคุณมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอมีโอกาสที่คุณจะเห็นระบบของคุณปิดตัวลงในขณะที่คุณเกือบจะผ่านการต่อสู้ใน Dark Souls III

เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการแบบนี้ขึ้น คุณจะต้องมี PSU ที่ทรงพลังเพื่อปลดปล่อยศักยภาพของกราฟิกการ์ดของคุณอย่างเต็มที่ ตารางต่อไปนี้แสดง PSU ที่แนะนำสำหรับชุด CPU และ GPU ที่แตกต่างกัน

พูดง่ายๆว่าถ้าคุณเลือก RTX 3090 คุณต้องมี PSU ที่ให้กำลังไฟ 850W เป็นอย่างน้อย หากคุณใช้ RTX 3080 คุณจะต้องใช้ 750W และถ้า RTX 3070 คุณจะต้องใช้ 650W เป็นขั้นต่ำ หากคุณต้องการ OC CPU และ GPU ของคุณเพิ่มเติม 100W สำหรับคำแนะนำเหล่านี้จะเป็นการเลือกซื้อที่ปลอดภัยกว่า

CPU ของคุณเหมาะสมหรือไม่?

ตอนนี้คุณมีเคสที่เข้ากันได้ดีและ PSU ที่เหมาะสมกับ GPU ของคุณ ตอนนี้คุณสามารถเปิดเกม AAA ที่คุณชื่นชอบด้วยระบบของคุณได้หรือไม่? อย่าลืมหน่วยที่จะส่งผลต่อประสิทธิภาพ GPU ของคุณอย่างแท้จริงนั่นคือ CPU

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า RTX 30 ใหม่นั้นทรงพลัง แต่คุณจะไม่ได้รับประสิทธิภาพที่ดีที่สุดหากไม่มี CPU ที่เหมาะสม แน่นอนว่าหากคุณมีงบประมาณเพียงพอ คุณควรเลือกซีพียูระดับพรีเมี่ยมเช่น Ryzen 9 5950X, 5900X หรือ Core i9-10900K แล้วทุกอย่างจะราบรื่นราวกับผ้าไหม

อย่างไรก็ตามหากคุณมีไม่มากเพราะ COVID ครั้งนี้ขอแนะนำให้เลือก CPU ของคุณตามเกมและการตั้งค่าในเกมที่คุณเล่นด้วย หากคุณติดเกม AAA และมักจะตั้งค่าความละเอียดเป็น 4K คุณอาจมีตัวเลือก CPU ที่กว้างขึ้นเนื่องจากเล่น 4K จะใช้ประสิทธิภาพจาก GPU มากกว่า และการปรับลดรุ่น CPU เล็กน้อยจะไม่ส่งผลกระทบต่อ FPS ด้วย เช่น 5600X หรือ 10600K

อย่างไรก็ตามหากคุณเป็นคนรักเกม eSport และชอบที่จะผลักดัน FPS ให้สูงในทุกวิถีทาง - แม้กระทั่งการตัดความละเอียดเป็น FHD ขอแนะนำให้ใช้ CPU ระดับสูงกว่า ตารางต่อไปนี้แสดง FPS ที่มีซีพียูที่แตกต่างกัน - ทั้งหมดนี้ใช้ RTX 3090 และคุณจะเห็นว่ามี FPS เพิ่มขึ้นมากกว่า 50% ภายใต้ Total War Saga: Troy เพียงแค่เปลี่ยน CPU จาก 3900XT เป็น 5900X

การเล่นแบบ FHD ประสิทธิภาพจะขึ้นอยู่ที่ CPU แทนที่จะเป็น GPU ซึ่งหมายความว่ายิ่ง CPU มีขนาดใหญ่เท่าใด FPS ก็ยิ่งมากขึ้นแม้จะอยู่ภายใต้กราฟิกการ์ดเดียวกันก็ตาม พูดสั้น ๆ พยายามอย่าประหยัดงบประมาณจาก CPU ของคุณมากเกินไปหากคุณต้องการให้กราฟิกการ์ดมูลค่า 700 เหรียญของคุณทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ 100%

ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบสิ่งเหล่านี้ก่อนซื้อกราฟิกการ์ดใหม่หรือติดตั้งบนเมนบอร์ดของคุณ หากคุณพบปัญหาการขาดแคลนพลังงานใน PSU ของคุณพื้นที่ไม่เพียงพอสำหรับเคสของคุณหรือปัญหาคอขวดด้านประสิทธิภาพที่เกิดจาก CPU GIGABYTE พร้อมที่จะช่วยคุณผลักดันพลังกราฟิกของคุณให้สูงสุด

เราเปิดตัวชุด PSU ที่มีกำลังไฟตั้งแต่ 650W ถึง 850W (P850GM / P750GM / P650B) ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการด้านคอมพิวเตอร์ที่ต้องใช้พลังงานได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมีเคส Mid-Tower บางรุ่นเช่น C200 GLASS & C300 GLASS และเมนบอร์ดรุ่น X570, B550 และ Z490 ที่สามารถใช้งานร่วมกับซีพียูระดับพรีเมียมได้อย่างสมบูรณ์แบบ

หากตรวจสอบทุกอย่างแล้วขอแสดงความยินดีเพียงแค่บูตระบบของคุณและเพลิดเพลินไปกับการเล่นเกมที่เต็มไปด้วยความบันเทิงสูงสุดจากกราฟิกการ์ดใหม่ของคุณ!

ดูวิดีโอฉบับเต็มได้ที่นี่!